ความหวังเรื่องลุ้นแชมป์เป็นสิ่งที่แฟนบอล อาร์เซนอล มักจะมีอยู่เสมอเมื่อถึงช่วงปลายฤดูกาล แต่หลายครั้งที่ต้องพังทลายลงเมื่อพลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” ไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ซีซันนี้ ทีมของ มิเกล อาร์เตตา มีโอกาสสูงที่จะทำความฝันให้เป็นจริง
ล่าสุด อาร์เซนอล บุกไปคว้าชัยชนะเหนือ เบิร์นลีย์ ด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นชัยชนะใน พรีเมียร์ลีก นัดที่ 5 ติดต่อกัน และตอนนี้พวกเขากำลังนำโด่งเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนนทิ้งห่างอันดับอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี อยู่ 6 แต้ม และนำห่างแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล 7 แต้ม
อาร์เซนอล เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 6 ภายใต้การนำของ อาร์เตตา และก็แข็งแกร่งขึ้นทุกปี โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในซีซันนี้คือ การเล่นลูกตั้งเตะที่กลายเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้พวกเขาประตูได้แล้วถึง 8 ลูก ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดจากลูกเซตพีซของทีมใน พรีเมียร์ลีก หลังผ่านไป 10 เกม
นอกจากนี้ อาร์เซนอล ยังมีสถิติการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น หลังเสียประตูในเกมเกมล่าสุดต้องย้อนกลับไปเมื่อ 28 กันยายน ที่บุกชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1 และนับตั้งแต่นั้นมา พวกเขาไม่เสียประตูอีกเลยตลอด 7 นัดหลังสุดในทุกรายการ
ขณะเดียวกัน หากทีมของ อาร์เตตา ไม่เสียประตูในเกม แชมเปียนส์ลีก กับ สลาเวีย ปราก ในวันอังคาร พวกเขาก็จะทำลายสถิติของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1903 ด้วยการเก็บคลีนชีตติดต่อกัน 8 นัด อีกด้วย
ด้านขุมกำลังเชิงลึก อาร์เซนอล ใช้เงินราว 250 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยการคว้านักเตะฝีเท้าดีอย่าง โนนี มาดูเอเก, วิคตอร์ เยเคอเรส, มาร์ตน ซูบิเมนดี, คริสเตียน มอสเกรา และ เอเรบิซี เอเซ เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งบรรดาแข้งใหม่เหล่านี้ก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
แม้ อาร์เซนอล จะต้องเผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ไม่ว่าจะเป็น กาเบรียล เฆซุส, ไค ฮาแวร์ตซ์ หรือกัปตันทีม มาร์ติน โอเดการ์ด แต่การมีขุมกำลังสำรองที่ทดแทนกันได้นั้น ก็ทำให้พวกเขายังยืนระยะได้อย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มโอกาสของ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้คือ ฟอร์มของคู่แข่งลุ้นแชมป์ที่ฟอร์มหลุด โดย ลิเวอร์พูล เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะ 5 นัดรวด แต่กลับสะดุดแพ้ 4 นัด ติดต่อกันก่อนจะกลับมาเอาชนะ แอสตัน วิลลา 2-0 ขณะที่ แมนฯ ซิตี ชนะ 6 เสมอ 1 และแพ้ไปแล้ว 3 เกม
สถานการณ์ ณ ตอนนี้ เรียกได้ว่า เป็นหนทางที่สดใสสำหรับ อาร์เซนอล และหากพวกเขารักษาความสม่ำเสมอไว้ได้ นั้น การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในรอบ 21 ปี คงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินไป
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก : Arsenal









ใส่ความเห็น